โรคต่อมลูกหมากอักเสบ กังวลจนเป็นโรคซึมเศร้า
คำถาม
ตอนนี้ผมเป็นโรคต่อมลูกหมากอักเสบมาประมาณ 2 เดือนแล้ว แต่กังวลใจมาก เพราะอาการยังไม่หาย จนทำให้นอนไม่หลับ น้ำหนักลด ปวดหนักแต่ไม่ถ่าย คุณหมอจึงให้ทาน imipramine เพิ่มเพื่อคลายกังวลและทาน tumax capsule กับ colofac เพื่อรักษาอาการการปวดช่วงล่าง แต่มีผลข้างเคียงคือ ปัสสาวะออกช้าและไม่พุ่งเหมือนก่อน แบบนี้ควรหยุดยาตัวไหนไหมครับ
คำตอบ
โรคต่อมลูกหมากอักเสบ มีแค่เพียงส่วนน้อย (ประมาณ 5%) ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จนทำให้เกิดการอักเสบขึ้น กลุ่มนี้จะจัดอยู่ในกลุ่มcategory I หากเป็นอย่างเฉียบพลัน และ category II หากเป็นแบบเรื้อรัง ส่วน category III หรือ Chronic Prostatitis/Chronic Pelvic Pain Syndrome (CP/CPPS) จะพบเป็นส่วนมาก อาจเรียกว่าได้ว่าเป็นโรคปวดหน่วงช่วงล่างของผู้ชายโดยไม่ทราบสาเหตุ
CP/CPPS มีอาการใกล้เคียงกับโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable bowel syndrome, IBS) และโรคเปลี้ยล้าเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome, CFS) ทำให้บางครั้งแพทย์ไม่สามารถแยกอาการออกได้ และคุณหมอต้องให้ยาที่ครอบคลุมกลุ่มโรคเหล่านี้
ผลข้างเคียงที่ว่าปัสสาวะออกช้าและไม่พุ่งเกิดจาก นั่นเป็นเพราะยาทั้ง 3 ตัวนี้มีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะ (anticholinergic) ทำให้แรงขับปัสสาวะลดลง ดังนั้นหากท่านรักษาอาการมาประมาณ 2 เดือนแล้ว ก็สามารถหยุดยา 3 ตัวข้างต้นได้ เพราะการช่วง 2 สัปดาห์แรกที่คุณหมอให้ยาปฏิชีวนะที่มีผลไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนยาที่เหลือคือทานเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น แต่หากยาไม่ทำให้อาการดีขึ้น ก็ควรหยุดยาจะดีกว่า
นอกจากรักษาโดยการใช้ยาแล้ว อาจใช้วิธีอื่นๆ เช่น จิตบำบัด, โยคะ, กายภาพบำบัดสกัดจุด, ฝังเข็ม, ออกกำลังกาย ฯลฯ ซึ่งเราอาจจะต้องทดลองทำเอง หรือแนะนำให้ทำวิปัสสนาแบบเวทนานุสติปัฏฐาน เพื่อสังเกตและพิจารณาอาการปวดของตนเอง