lcp

เป็นอัมพาต รีบไปโรงพยาบาลแต่หมอก็ยังว่าฉีดยาไม่ทัน

viewbox

เป็นอัมพาต รีบไปโรงพยาบาลแต่หมอก็ยังว่าฉีดยาไม่ทัน

ถาม

หลังทานอาหารเย็นเสร็จคุณแม่มีอาการอ่อนแรงจึงรีบพาไป รพ. ประมาณ 2 ชม. หลังมีอาการก็ถึงมือหมอ หลังจากปรึกษากับหมอหลายท่านสรุปท่านสุดท้ายออกมาบอกว่าคุณแม่เป็นอัมพาตแล้วมาถึงช้าไป ฉีดยาละลายลิ่มเลือดไม่ได้ ทำให้เวลานี้นอน รพ. มาเกือบเดือนแต่แขนก็ยังไม่ค่อยมีแรง อยากถามว่า การฉีดยาละลายลิ่มเลือดต้องภายในกี่ชั่วโมงถึงไม่ช้าไป

ตอบ

อยากให้ทำความเข้าใจก่อนว่าอัมพาตมี 2 แบบ

แบบที่ 1. เส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน เลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งออก

แบบที่ 2. หลอดเลือดในสมองตีบ แล้วมีลิ่มเลือดไปอุดตรงที่ตีบ ถ้าถึงหมอเร็วก็ฉีดยาละลายลิ่มเลือด ถ้ามาช้าก็ลุ้นให้ร่างกายฟื้นตัวเองอย่างเดียว

ซึ่งนาทีชีวิตของการรักษาอัมพาตแบบที่ 2 ในอดีตประมาณ 3 ชม. ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีอาการจนถึงมือหมอในขั้นตอนการตรวจอย่างละเอียดแล้ว (ในกรณีนี้อาจผ่านหลายขั้นตอนจนไปถึงการสอบถามญาติและบอกประโยชน์กับความเสี่ยง) ซึ่งหลาย ๆ กรณีก็ยังต้องเสียเวลาในการที่ญาติโทรสอบถามคนนั้นคนนี้ บางคนใช้เวลาวิเคราะห์อีก ทุกขั้นตอนที่กล่าวมาคือต้องอยู่ใน 3 ชม. ยกเว้นมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูงหรือพึ่งผ่านการผ่าตัดใหญ่ ตรงนี้จะได้ประโยชน์จากการฉีดสารละลายลิ่มเลือดมากกว่าปกติ จึงพอสรุปได้ว่าการป่วยอัมพาตเป็นเรื่องเร่งด่วนแบบเดียวกับหัวใจวาย มาถึงหมอเร็วก็รักษาทัน ฟื้นตัวไว คนสมัยก่อนชอบบอกว่าเป็นอัมพาตแล้วช่วยตัวเองไม่ได้ตลอดชีวิตนั่นผิดไปแล้ว

อย่างไรก็ตามได้มีกลุ่มแพทย์ทางยุโรป ECASS III มีการวิจัยโดยพาผู้ป่วยอัมพาตมาถึง รพ. เกิน 3 ชม. แต่ไม่เกิน 4 ชม. ครึ่ง จำนวน 823 ราย มีการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มฉีดยาละลายลิ่มเลือด และกลุ่มฉีดน้ำเปล่าแต่บอกว่าเป็นยา จากนั้นรอดูผล 1 เดือน และ 3 เดือน ปรากฏคนที่ฉีดยาจริงฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้น จึงสรุปได้ว่าหากเส้นเลือดในสมองแตกแล้วมาถึงหมอช้าแล้วฉีดยาเข้า เลือดจะออกเยอะไม่เป็นจริง และทำให้นาทีชีวิตของผู้ป่วยอัมพาตเพิ่มขึ้นจาก 3 ชม. เป็น 4 ชม. ครึ่ง