เคสตัวอย่างปัญหาไทรอยด์
ใจสั่น มือสั่น ไม่มีแรง เหนื่อยง่ายเกินไป ตรวจ TSH รู้ว่าไทรอยด์เป็นพิษ ให้ทาน Propyl และ Tapazole หลังทานยา 3 เดือน เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์อีก ได้ยา Propyl และ Propanolo งด Tapazole หลังจากนั้นค่อยๆ ลดยา Propyl ลงจนเลิกทาน ส่วน Propanolol ทานเฉพาะตอนใจสั่น ผลตรวจ TSH เพิ่มขึ้น = 1.8 แต่ T3 ลดลง = 78
ผลตรวจเลือดล่าสุด ค่า TSH ลดลง = 0.545 แต่ T3 เพิ่มขึ้น = 102.80
กลัวจะมีอาการเหมือนก่อนรักษา
สรุปผลตรวจ วินิจฉัยว่าเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ มีการจ่ายยาให้ตามข้างต้น และตรวจเลือดครั้งสุดท้ายมีอาการตัวร้อน เพลียร่วมด้วย ผมจะวิเคราะห์ให้ดังนี้
1. อาการข้างต้นจะเป็น hyperthyroidism / secondary hypothyroidism / tertiary hypothyroidism หรืออื่นๆ หรือไม่?
ตอบ อาการดังกล่าวไม่ใช่ทั้งสามอย่างเลยครับ เพราะผลเลือดครั้งสุดท้ายเป็นปกติ หมอจะเรียกกันว่า euthyroid คือค่า TSH และ T3 ไม่ได้ต่ำ ซึ่ง Secondary / tertiary hypothyroid จะเป็นเมื่อมีโรคที่สมอง โดยการผลิต TSH ลดลง ต่อมไทรอยด์ก็พลอยผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ลดลงด้วย
2. ถ้าเป็น secondary / tertiary hypothyroidism การที่หมอจ่ายยารักษาไฮเปอร์ไทรอยด์ (propyl ทาน 2 ปี 7 เดือน) จะส่งผลเสียยังไงบ้าง
ตอบ คุณไม่ได้เป็นไฮโปไทรอยด์ก็ไม่มีผลกระทบครับ สบายใจได้แล้ว
3. นัดเจาะเลือดอีกครั้ง พ.ค.2553 ควรรอหรือตรวจที่อื่นดีคะ แล้วต้องตรวจอะไรบ้าง ตอนนี้เพลีย ตัวร้อนบ่อย เป็นช่วงๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ (รพ.ใช้สิทธิประกันสังคมได้ แต่ถามอะไรคุณหมอไม่ค่อยตอบค่ะ)
ตอบ แล้วแต่คุณครับ หมอคิดว่า หมอทีมเดิมดูแลคุณถูกต้องแล้ว ถ้าเปลี่ยนหมอการรักษาจะไม่ต่อเนื่อง ส่วนระบบประกันสังคม/ระบบสามสิบบาท หมอว่าเป็นระบบดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดในโลกแล้วนะ และการที่หมอคุณไม่ค่อยตอบอาจเพราะ กลัวว่าคิวถัดไปที่รออยู่จะได้ตรวจช้า เว้นแต่ว่า คิวอื่นไม่มีแล้ว เขามีเวลามากขึ้นคงตอบครับ
คำแนะนำสำคัญ ที่หมออยากให้คุณทำ และไปตรวจ
1. ประเมินอาการอ่อนเพลีย 3 ประเด็น คือ
- เวลาพักผ่อนว่า นอนพอไหม หลับสนิทหรือเปล่า ใช้ยานอนหลับไหม?
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ? ถ้าไม่ ร่างกายจะขาดสารเอ็นดอร์ฟินยังไงก็เพลีย
- ความเครียด มีความเครียดสะสม? ได้รีแลกซ์บ้างหรือเปล่า ควรมีวิธีจัดการความเครียดที่ดีครับ
2. ประเมินอาการตัวร้อนให้ชัด โดยไปซื้อปรอทมาวัดไข้เลย ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 37 องศาแล้วเรื้อรัง ก็บันทึกเอาไปให้หมอครับ
3. ประเมินการเต้นของหัวใจ ว่าเต้นเร็วไปไหม ลองวัดดูนะ ถ้าเต้นไม่เกิน 72 ครั้งต่อนาทีถือว่าผ่าน จังหวะการเต้นเป็นยังไง ลุ่มๆ ดอนๆ ไหม ถ้าเต้นแปล๊กแปลกอาจเป็นภาวะแทรกซ้อนจากไฮเปอร์ไทรอยด์ก็เป็นได้ ต้องรักษาด่วน
4. บันทึกความดันเลือด ถ้ามากกว่า 140/90 ถือว่าสูงไปแล้ว ต้องรีบรักษา
5. ชั่งน้ำหนัก ว่าเพิ่ม/ลด มีทิศทางยังไง ถ้ายิ่งลดลงๆ ก็แสดงว่าไฮเปอร์ไทรอยด์คุมไม่ได้
6. ตรวจน้ำตาลในเลือด เพราะคนเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ มักเป็นเบาหวานด้วย สองโรคนี้เพื่อนซี้กันเลย
7. ตรวจความแน่นหนาของกระดูก เพราะกระดูกจะพรุน หากเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์
8. ถ้าคุณอยากมีลูกต้องประเมินการเจริญพันธุ์ เพราะเป็นไฮเปอร์ไทรอยด์จะมีลูกยาก ควรปรึกษาหมอด้านเจริญพันธุ์โดยตรง
กลัวว่าจะกลับมาเป็นใหม่ค่ะ
หมอจะบอกว่าไม่ต้องกลัวหรอก ถึงยาจะช่วยรักษาได้แค่ 25-30% แต่ถ้ากลับมาเป็นก็รักษาด้วยการกิน Radioactive iodine (l-131) ได้ วิธีนี้นิยมมากในอเมริกา ปลอดภัยหายห่วง และยังมีอัตราหายได้ 75-100% ด้วย ที่สำคัญไม่ได้ทำให้เป็นหมันหรือมะเร็งอย่างที่กลัวกัน มีข้อเสียอยู่อย่างเดียวคือ อาจต้องกินฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทนไปตลอดครับ
คราวนี้ใครที่กำลังกังวลกับไทรอยด์ หมอคิดว่าคงเข้าใจปัญหานี้มากขึ้นแล้ว เช็คอาการเบื้องต้นแล้ว อาการมันเหมือนเป๊ะเลย ก็พุ่งตัวไปตรวจเถอะครับ กันไว้ดีกว่าแก้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นของคุณเอง